พอเริ่มเข้าเดือนตุลาคมซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของปี นับว่าเป็นทั้งจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของสิ่งต่างๆที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนผ่านห่วงความทรงจำของเราไป อดไม่ได้ที่ระลึกถึงทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและที่กำลังดำเนินอยู่และที่จะเกิดขึ้น ทั้งในแง่สังคม เศรษฐกิจ การเมือง รวมถึงปัจเจกบุคคล วัสสานะฤดู(วสันตฤดู) กำลังจะผ่านไปเหมันตฤดูเริ่มโชยมาให้พอรู้สึกได้ ด้วยความหวังว่าเราคงผ่านเดือนตุลานี้ไปอย่างเรียบร้อยเพื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของปี พุทธศักราช 2556 ช่วงเวลานี้เมล็ดกาแฟบางที่เริ่มใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ มิสเตอร์ลีเดินทางขึ้นไปเชียงใหม่แทบทุกปีเพื่อขึ้นไปเยี่ยมเยียนเจ้าของสวนกาแฟและทัศนาจรดูแหล่งปลูกกาแฟอราบิก้าของไทย แต่ปีที่แล้วติดคั่วกาแฟต่อเนื่องเลยไม่ได้ขึ้นไปสัมผัสลมหนาวแห่งดินแดนล้านนาปีนี้จึงตั้งใจอย่างมากที่จะไปเชียงใหม่และขึ้นดอยไปชมไร่กาแฟและถือโอกาสไปพักผ่อนในตัว วันนี้เลยขอเอารูปเก่าๆที่เคยถ่ายไว้ตอนขึ้นเหนือไปกับคู่หูและเป็นนายแบบมาลงดูกันเล่นๆ ขออนุญาตอธิบายสถานที่สั้นแล้วกัน
เริ่มจาก น้ำหนาว เขาค้อ สะพานพ่อขุนผาเมือง หรือ สะพานห้วยตอง
เป็นเส้นทางที่ผ่านไปอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ที่ กม. 50 มีสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่ตอม่อสูงสุดในประเทศไทย สูงถึง 50 ม. ที่ กม.18+500 คือ สะพานข้ามห้วยตอง และได้รับการตั้งชื่อเป็นทางการว่า “สะพานพ่อขุนผาเมือง” และเป็นเส้นทางที่ต้องใช้เครื่องจักร หนักเป็นจำนวนมาก เพื่อตัดเขาเป็นงานดินถึง 4.0 ล้าน ลบ.ม. และต้องทำ การระเบิดหินอีก 4.5 ล้านลบ.ม
นับว่ามีปริมาณมาก เมื่อเทียบกับความยาวของระยะทางเพราะต้องทำการ ก่อสร้าง ที่ตัดภูเขาสูงชัน และสลับซับซ้อนมาก สะพานห้วยตอง หรือ สะพานพ่อขุนผาเมือง เป็นการก่อสร้าง เพื่อเชื่อมภาคเหนือกับภาคตะวันออก เฉียงเหนือเข้าด้วยกัน มีระยะทาง 103.4 กม. ใช้เวลาก่อสร้างรวม 6 ปี
ต่อกันด้วยจุดชมวิวที่พักระหว่างมีร้านค้าและสินค้ามากมายผลิตผลทางการเกษตร
ต่อกันด้วย KHAOKHO ROUTE 12 ที่พักระหว่างทางของเอกชนแหล่งรวมสินค้าอาหารของฝากที่มีชื่อของเขาค้อบรรยากาศดีๆออกแนว Country หน่อยๆ
สิ่งที่ขาดหายของทริปนี้คือนางแบบเพราะเราไปกันสองคนไม่ถ่ายวิวก็เรียกเปิ้ลผู้ช่วยมาเป็นนายแบบเพราะหากถ่ายเฉพาะวิวหรือสถานที่ถ้าไม่มีบุคคลภาพจะจืดไปนิดๆ ทนเอาไม่มีสาวสวยไปด้วย
ตัวคู่หูก็หานายแบบกับนางแบบไม่มีเหมือนกันถ้าได้น้องๆน่ารักแทนเจ้านี่ภาพจะมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะ
ไหนๆก็ไม่มีสาวเผอิญเจอน้องเค้ามากับพ่อ มาส่งผักให้ร้านที่นี่แต่แกรอในรถก็เดินตรงไปขอแกถ่ายรูปรอยยิ้มมุมปากเปิดเองโดยธรรมชาติถ่ายมา3ใบ อีกใบถ่ายเสย เห็นขี้มูกเขียวๆเก๋ดีแต่ขอไม่ลงเกรงใจกลัวโตขึ้นแกจะมาคิดบัญชี พ่อแกน่าจะเป็นเกษตรกรม้ง
ที่ลืมไม่ได้คึอสินค้าที่มีชื่อของเพชรบูรณ์ “มะขามหวาน” นายแบบคนเดิมอีกแหละ
วันนี้ขอจบทริปกาแฟตรงนี้ก่อนนะครับจะทยอยๆลง กะว่าถึงเชียงใหม่ก็คงปีใหม่พอดี ผมจะสลับบทความกับเจ้าทริปกาแฟนี้นะครับ เพื่อให้ผู้อ่านรวมทั้งตัวผมเองจะได้ไม่เบื่อ(คิดเองเออเอง)