คงปฏิเสธไม่ได้ว่าร้านกาแฟทั่วไปเมนูที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆคือ กาแฟเย็น (จะชื่ออะไรก็แล้วแต่) มีสักกี่ครั้งไหม๊ที่เราซื้อกาแฟเย็นมากินหรือแม้กระทั้งลูกค้าที่ซื้อกาแฟแฟเย็นไปดื่มแล้ว มีเสียงตอบรับแบบชัดถ้อยชัดคำว่ากาแฟเย็นร้านนี้หรือแก้วนี้อร่อยมาก เอาแค่เฉลี่ย 70% ขึ้นไปส่วนตัวคิดว่าไม่ง่ายนัก เพราะการตัดสินหรือให้คะแนนว่ากาแฟเย็นร้านใดแก้วใดอร่อยคุ้มค่าคุ้มราคามันประกอบด้วยหลายๆส่วนประกอบกันหากมองในมุมรสชาติอย่างเดียวคงไม่พอแต่ควรต้องเทียบรสชาติกับราคา, บรรยากาศภายในร้านและอื่นๆ ผมเคยทานกาแฟสดซุ้มไม้ริมถนนแบบไม่ได้ตั้งใจแถมแก้ว 22ออนซ์ด้วยนะเอ่อ หลังจากชิมกาแฟหลายๆรอบตรวจสอบรสชาติแล้วกาแฟจะแน่นเต็มๆกำลังดีแม้นว่ามีโรบัสต้าอยู่ก็ไม่ส่งผลต่อกลิ่นแต่ยังช่วยส่งเสริมน้ำหนักในตำแหน่งที่เหมาะสม ผมย้อนไปที่เงินที่จ่ายค่ากาแฟเย็นแก้วนี้ 35 บาทส่วนตัวผมให้คะแนนกาแฟแก้วนี้ B+ แต่กลับกาแฟเย็นบางแก้วที่ซื้อมาราคา 50-70-100 บาทชิมลงไปแล้วผมให้ C- (เกรงใจอยู่นะ)
ครีมที่มีลักษณะให้เฉพาะความมันไม่เน้นน้ำตาลบางค่ายก็นิยมใช้มันมีข้อดีคือควบควมระดับความหวานความมันได้ง่าย
มาดูที่กาแฟแก้วแรกที่ได้คะแนนเยอะอันดับแรกเลยรสชาตินี่ทานได้เลยไม่กระดากยิ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้วยอดเลย ส่วนสำคัญที่ผมเห็นว่าทำไมกาแฟแก้วนี้ถึงรสชาติดีมองไปที่แววตาเจ้าของร้านและการทำที่ละเมียดบรรจงเข้าใจกาแฟของตัวเองและส่วนผสมอย่างดี จึงทำมาได้รสกลมกล่อมเยี่ยงนี้ กาแฟเย็นหลักมันประกอบจากส่วนผสม 2 ส่วนคือส่วนที่เป็นช็อทกาแฟและส่วนผสมที่เป็นนมน้ำตาลรวมไปถึงน้ำแข็ง หากผู้ชงสามารถหากาแฟที่เหมาะกับสไตล์และต้นทุนของตัวเองแล้วสั่งซื้อกาแฟที่คั่วใหม่ๆบดแก้วต่อแก้วยิงกาแฟได้แม่นยำ (เอาซัก 25-30วินาที) กาแฟที่เป็นหัวเชื้อย่อมดีตามไปด้วย มาดูส่วนหลังนี่ซิครับไอ้จำพวกนมน้ำตาลน้ำแข็งนี่ก็ปวดหัวทีเดียว ผมจะว่าถึงวิธีการผสมส่วนผสมที่เป็นนมกับน้ำตาลแล้วกัน น้ำแข็งผมว่าเย็นทุกเจ้าส่วนจะสะอาดก้อนเล็กบดละเอียดไม่ละเอียดคงไม่กล่าวถึงร้านค้าคงพอทราบ
ส่วนที่ให้ความหวานความมันทั้งนมข้นหวานเอยข้นจืดเอยที่บรรจงใส่ลงในกาแฟเย็นรวมไปถึงบางร้านก็ใส่คอฟฟี่เมตด้วย
การผสมส่วนผสมผมขอแบ่งเป็น 2แบบ คือ1. ส่วนที่เป็นนมและหวานอยู่ในตัวเดียวกันซึ่งบ้านเราคงหมายถึงนมข้นหวาน 2. ส่วนที่เป็นนมกับน้ำตาลแยกกันนำมาผสมที่หลังเช่นนมสดแยกกับน้ำเชื่อมอาจเป็นครีมแบบต่างๆรวมไปถึงบางร้านก็ใช้คอฟฟี่เมตให้ความมัน ทั้งสองอย่างมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างที่นิยมคือนมข้นหวานบวกนมข้นจืดผสมกันก่อนมันมีข้อดีคือนมจำพวกนี้ราคาถูกเดินไปฝั่งตรงข้ามก็หาซื้อได้เก็บได้นานเป็นเดือนข้นเหนียวโดนใจ แต่ข้อด้อยก็คือหวานกับมันไปด้วยกันไม่สามารถแยกได้เช่นเพิ่มมันหวานก็มาด้วยเพิ่มหวานมันก็เพิ่มด้วยและที่สำคัญนมลักษณะนี้ผ่านกระบวนการถนอมอาหารด้วยอุณหภมูิที่สูงเพื่อจะเก็บได้นานๆ ทำให้โครงสร้างกลิ่นรสที่ดีบางตัวหายไปและได้กลิ่นบางอย่างที่ไม่ค่อยสดชื่นติดมาด้วย ฉะนั้นเราควรเลือกตำแหน่งใช้ให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้กลิ่นรสบางอย่างแสดงตัวมากเกินไป
ส่วนผสมมทั้งนมสด, วิปปิ้งครีม, ฮาฟครีม จะไม่มีความหวานเจือปนถึงมีก็น้อยมากเราสามารถปรับได้ตามชอบใจ
แต่หากเป็นแบบหลังคือแบบแยกหวานกับมันออกจากกันแบบนี้มันจะมีข้อดีตรงที่ว่าเราสามารถจัดการดูแลส่วนผสมและรสได้ง่ายกว่ามากแถมยังยืดหยุ่นกว่า แต่ข้อจำกัดของส่วนผสมแบบนี้ยังมีน้อยในเมืองไทยและหรือต้องทำขึ้นเองแต่ปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆและหาซื้อได้ง่ายขึ้นแต่ข้อด้อยอีกอย่างคือราคาสูงกว่าส่วนผสมที่เป็นแบบสเตอริไรซ์ (นมกระป๋อง) หรือแม้แต่ซัพพลายเออร์บางรายยังมีผงนมพิเศษเพิ่มอีกหลายตัวเรียกกันว่าจำกันไม่หวาดไม่ไหว สุดท้ายเจ้าของร้านที่ใส่ใจต้องลองหาข้อมูลและซื้อมาทดลองดูว่าอันไหนเหมาะกับเราทั้งในแง่ต้นทุนและรสชาติ ถามว่าทำไมเราต้องใส่ใจหากผ่านการทดสอบบ่อยๆและชิมดูแล้วรสชาติดีขึ้นนั่นหมายถึงเรามีการพัฒนาไปอีกนิดแล้วล่ะ