ผมพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพื่อตอบคำถามหลายข้อสงสัยในเรื่องกาแฟว่ากาแฟเจ้านั้นเป็นอย่างนั้นกาแฟเจ้านี้เป็นอย่างงี้ สรุปรวมความก็คืออร่อยไปคนละแบบหรือว่ารสชาติใกล้เคียงกันไม่แตกต่างกันมาก ผมหมายถึงว่าแต่ละร้านชงกาแฟใช้ได้ฝีมือดีรายละเอียดอาจแตกต่างกันเล็กน้อย อันสืบเนื่องจากเมล็ดกาแฟที่ใช้ส่วนผสมที่เลือกขนาดแก้วและอื่นๆ อยากรู้ไหม๊ครับว่าทำไมผมจึงคิดเช่นนั้นเริ่มที่ส่วนของวัตถุดิบทั่วไปซึ่งหาซื้อได้ตามท้องตลาดเช่น นมต่างๆ, น้ำตาล, ผงสารพัดประโยชน์ เป็นต้น เอาเป็นว่าไม่หนีกันไม่ได้ผลิตหรือพัฒนาขึ้นเองหรือเป็นสูตรต้นตำหรับเจ้าคุณย่าอะไร มาที่ตัวเมล็ดกาแฟหากเจ้าของร้านมีความละเอียดในเรื่องการเลือกใช้กาแฟที่ดีและเหมาะสมเข้าใจธรรมชาติของกาแฟนั้นๆในการนำมาใช้ที่ร้าน โดยการเลือกกาแฟที่ให้รสสม่ำเสมอเมล็ดกาแฟใหม่ๆสดๆ ( ไม่เกิน 1 เดือนนับจากวันคั่วและมีวาวล์ป้องกันอากาศเข้า ) ตบท้ายด้วยการชงกาแฟแบบแก้วต่อแก้วไม่บดกาแฟทิ้งไว้ยิงกาแฟให้ไหลเหมือนสายน้ำผึ้งหรือหางหนู (25-30วิ) หรือแม้กระทั่งการชงในแบบอื่นๆ กาแฟที่ได้ออกมาไม่ว่าร้อนหรือเย็นจะต้องไช้ได้แน่นอน ส่วนจะถูกใจใครหรือไม่อันนี้แล้วแต่รสนิยมในการดื่มแต่ละท่าน
หากผมบอกว่ามีร้านกาแฟร้านหนึ่งตกแต่งร้านใช้ได้น่านั่งเย็นสบายอยู่ไม่ไกลจากบ้านไปมาสะดวกกาแฟใช้ได้ราคา 45-55 บาท หากเป็นเช่นนี้แล้วร้านนี้น่าจะต้องขายดีอย่างแน่นอน??? ผมมีความเชื่อว่าหลายท่านคงทราบอยู่แล้วว่าหากทำได้แบบข้างต้นโอกาสในการขายมีมาก เมื่อก่อนอาจจะใช่แต่ทุกวันนี้ผมไม่แน่ใจเพราะวงการกาแฟบ้านเราเปลี่ยนไปมากมีร้านค้ากาแฟเกิดขึ้นมากมายทั้งรูปแบบร้านใหม่และกาแฟสไตล์ใหม่ๆที่มีความหลากหลาย
โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้กาแฟนอกดีๆคุณภาพสูงๆมีให้เห็นเยอะแยะมากมายจะเอาจากประเทศไหนล่ะมีหมดราคาก็พอรับได้แถมเจ้าของร้านมีความรู้เรื่องกาแฟแบบไม่ธรรมดา แต่ที่ผมเห็นว่าสำคัญและน่าสนใจมากๆคือนับจากเวลานี้เป็นต้นไปคือ ผู้เล่นหน้าใหม่อาจไม่ใข่ผู้หลงไหลชื่นชอบกาแฟอยู่ในสายเลือดเหมือนด้งเดิม แต่อาจเป็นผู้ที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจและมีความได้เปรียบด้านการแข่งขัน ( competitive advantage ) อยู่มากลงมาเป็นผู้เล่นในสนามกาแฟ ถ้าจะให้ผมพูดชัดๆตรงๆก็คือยักษ์ใหญ่วงการธุรกิจทั้งหลายในรูปแบบต่างๆ ผมไม่ใช่พหูสตที่ผมพูดถึงอาจจะเกิดหรือยังไม่เกิดหรือแม้กระทั่งเกิดเร็วจนเราต้องประหลาดใจก็ได้
ท่านเคยสังเกตไหม๊ครับร้านกาแฟบางร้านขายดีจนคนอิจฉาทั้งที่ท่านก็เคยชิมกาแฟหรือสินค้าในร้านหลายตัวและตอบในใจว่าก็ OK นะ ผมว่าแค่นั้นก็เพียงพอแล้วแม้บางครั้งร้านอื่นรวมๆแล้วอร่อยกว่าหน่อย (หน่อยเดียวจริงๆ) ฉะนั้นองค์ประกอบด้านอื่นต้องแข็งจริงเช่น ทำเล, เอกลักษณ์ที่พิเศษ, การจัดการ, ภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจเชื่อมั่น ในบางครั้งที่ผมรับโทรศัพท์พูดคุยสอบถามเรื่องต่างๆเกี่ยวกับกาแฟ เช่นเรื่องเรียนชงกาแฟ, เครื่องชงกาแฟ, เครื่องบด ผมบอกว่าผมไม่ห่วงเรื่องชงกาแฟไม่ดีถ้าใส่ใจสังเกตหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้นเองเลือกกาแฟให้ดีส่วนผสมให้เหมาะอร่อยไม่หนีกันหรอก น้อยท่านที่จะถามผมว่าตลาดกาแฟน่าจะเดินไปเส้นทางไหนใครคือผู้แข่งขันในสนามตอนนี้และอนาคตเราควรจะเดินบนเส้นทางสายกาแฟอยู่อีกไหม๊อันนี้น่าสนใจกว่า
อย่างที่เรียนให้ทราบตั้งแต่ต้นว่ามันอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงนับว่าน่าสนใจไม่น้อยว่าวงการกาแฟจะเปลี่ยนไปเช่นไร ซึ่งมันก็คงเหมือนๆกันทุกวงการนั่นแหละครับที่เมื่อเวลาผ่านไปเหตุปัจจัยก็เปลี่ยนทำให้สิ่งที่เราเคยคิดไว้เมื่อก่อนวันนี้อาจไม่ใช่ก็ได้ เราพูดคุยกันว่าร้านกาแฟจะต้องทำอะไรบ้างดมบอกว่าก็ทุกจุดนั่นแหละครับตามที่ผมเห็นข้อความที่แชร์ๆกัน แต่ถ้าถามผมเป็นส่วนตัวคำตอบของผมคือ ความสามารถในการแข่งขันในปัจจุบันและอนาคต เพราะร้านกาแฟที่เปิดใหม่จะต้องมีทักษะความรู้แจ่มๆในเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือหลายๆเรื่องซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องการชงกาแฟรสเลิศแต่รวมๆแล้วคนอื่นแข่งด้วยก็เหนื่อย นี่ยังไม่รวมร้านกาแฟจากบริษัทยักษ์ใหญ่อีกหลายๆเจ้าที่ผมคิดว่าอีกไม่นานเราอาจจะได้เห็นจังหวะก้าวของเค้า เราจึงจำเป็นต้องปรับปรุงยกระดับวันละเล็กละน้อยให้สามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นๆได้