ดมส่ง handy drive มาให้บอกรูปถ่ายกาแฟเอสเพรสโซ่ที่อิตาลีอยู่ในนี้รับมาแล้วถามดมว่าใช้กล้องอะไรถ่าย ดมตอบกลับมาว่าใช้ Samsung S4 ถ่ายทั้งหมด Auto ล้วนๆกดอย่างเดียว ผมจะไม่ขอกล่าวถึงสถานที่เพราะไม่ได้ไปด้วยเอาเป็นว่าเอารูปกาแฟต้นแบบอย่างอิตาลีมาฝากก็แล้วกัน
มันมีบรรยากาศที่ดีวิวสวยเลยนำมาฝากหากมีแต่กาแฟ เดี๋ยวจะนอนไม่หลับ
บรรยายกาศการดื่่มกาแฟ ยืนอย่างเดียวเอสเพรสโซ่เกือบทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 40 วินาทีต่อคน
เอสเพรสโซ่แบบซิงเกิ้ลช๊อท น่ากินไม่น้อย
กาแฟที่ใช้ของ KIMBO แต่ไม่ได้มีขายปลีกในร้านที่ดมไปเสียดาย
คุ้นกันไหม๊กับกาแฟยี่ห้อนี้
อีกหนึ่งบรรยากาศ
เห็นวิวสวยดีเลยนำมาฝาก ถ่ายด้วย SS S4 ต่อไปคงไม่ค่อยเห็นคนถือกล้องแล้วยกเว้นมืออาชีพ
เครื่องยี่ห้อนี้เมืองไทยเยอะมาก
สตรีมนมอยู่ เครื่องชงส่วนใหญ่ในร้านจำพวกนี้จะ 3 หัวชงขึ้นไป
กาแฟของร้านด้านบน ครีม่า tiger skin
อิตาลีไม่ทานกาแฟเย็นถ้าของเย็นเจ้านี่เลย ไอศครีมเจลลาโต นับว่ามาถูกที่จริงๆดมเริ่มทำมิสเตอร์ลีครั้งแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้วโดยเริ่มจากไอศครีมโฮมเมดถ้าถามว่าลูกค้าโดยทั่วไปที่เข้ามิสเตอร์ลีครึ่งหนึ่งเข้าไปทานไอศครีมซึ่งมิสเตอร์ลีเองมีเกือบ 40 รสชาติวันหน้าวันหลังจะพาทัวร์ไอศครีมกัน
เอสเพรสโซ่ที่อิตาลีจะโรยด้วยน้ำตาลด้านบนดมบอกว่าพอใส่น้ำตาลลงในเอสเพรสโซ่ เอสเพรสโซ่ที่ว่าขมๆหนักทานไม่ไหว สิ่งที่ได้ออกมาคือ พอดีจริงๆ หรือนี่ที่เค้าเรียกกันว่ากาแฟเอสเพรสโซ่ต้อง bittersweet โดยกาแฟเอสเพรสโซ่ออกรสดาร์กช๊อคโกแลตถั่วนิดๆ รวมกับน้ำตาลพอดีเลย แต่หากจะทำเอสเพรสโซ่ที่ bittersweet โดยธรรมชาติอาจจะต้องเลือกกาแฟสายพันธุ์ชั้นดีที่ให้ ช๊อคสวีทแถมด้วยacidityที่ไม่สูง หากเป็นของไทยออกจะยากซักนิดเนื่องจากกาแฟสายพันธุ๋ของเราหาสวีทยากมากแต่acidityหาไม่ยากเลยและหากคั่วเพื่อไห้ acidity หมดกาแฟอาจจะติดไหม้แถมบอดี้ไม่ค่อยมี แต่ที่อิตาลีดมบอกว่ากาแฟเค้านี่บอดี้ดีรสขมช๊อคถั่วacidityไม่มีแต่ ”ไม่มีกลิ่นไหม้เลย” คราวหน้ามาเพิ่มเติมกันใหม่พร้อมด้วยรูปจากกล้องมือถือเหมือนเดิม