ผมจำได้ว่าเมื่อตอนไปเรียน Roasting&Cupping มีชายหนุ่มชาวไต้หวันจำชื่อแกไม่ได้เป็นผู้ช่วยของทาง Coffee Lab International ในการตระเตรียมอุปกรณ์ในการ cupping เตรียมกาแฟแต่ละตัวในการ cupping เราอดสงสัยไม่ได้ว่าแกทำไมต้องมากินมานอนอยู่ที่นี่ 3 เดือนมาแล้วเลยถามเหตุผลคร่าวๆกับแก แกตอบว่าพี่สาวได้แฟนทำธุรกิจกาแฟที่บราซิลเลยอยากให้มีความรู้เพิ่มเติม ผมกับดมมานั่งทบทวนกันอีกรอบแล้วดมก็พูดขึ้นว่า สิ่งหนึ่งเกี่ยวกับกาแฟที่จะหาจากที่อื่นไม่ได้โดยง่ายเลยคือแกสามารถได้ชิมกาแฟจากหลายๆแหล่งทั่วโลก
HONDURAS เป็นกาแฟที่บอดี้ดีมากออกรสแ่น่นช้อคโกแลตถั่วแต่ยังคงขาดมิติในด้านอื่น
เนื่องจากที่นี่เป็น lab รับประเมินตัวอย่างกาแฟหากจำไม่ผิดตอนนั้นเกือบ 8 ปีที่แล้วอยู่ประมาณ 4,500-5,000 บาทต่อกาแฟหนึ่งตัวอีกทั้งยังเป็นโรงคั่วกาแฟท้องถิ่นที่มีฝีมือเลยทีเดียวนับว่าเป็นความมุมานะอย่างชาญฉลาดยิ่งซึ่งความรู้แบบนี้เป็นความรู้เฉพาะที่ไม่สามารถหาที่เรียนได้ทั่วไปต่อให้เป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกก็ไม่มี จะมีก็แต่ในแง่มุมวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับสายพันธุ์,องค์ประกอบทางเคมี,แหล่งปลูกการขยายพันธุ์ แต่สำหรับเรื่อง ประสาทสัมผัสกลิ่นรส (sensory testing)
COSTA RICA และ RWANDA นับเป็นกาแฟที่น่าสนใจพอสมควร
นับว่าไม่ง่ายเลยจะต้องเกิดจากประสบการณ์ตรงจากการชิมกาแฟมานับหมื่นๆถ้วยและมากพอจะมีความมั่นใจได้ว่าเข้าถึงความจริงแห่งกลิ่นและรสของกาแฟ หลักการนี้เองทำให้เราสองพี่น้องมิสเตอร์ลีต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจจากการคั่วและการชิมกาแฟอยู่เสมอๆ เราจึงเพียรมองหาโอกาสในการชิมกาแฟต่างๆให้มากที่สุดจากทุกๆแหล่งทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ต่างจากเรามาก
แต่กระนั้นก็ตามหากเรามองเห็นข้อดีข้อด้อยของกาแฟแต่ละตัวก็จะสามารถประเมินกาแฟต่างๆทั้งไทยทั้งเทศได้อย่างถูกต้องใกล้เคียงความเป็นจริงทำให้เราได้ทราบถึงลักษณะการออกรส,การให้กลิ่น,คาร์แรคเตอร์เฉพาะตัวหรืออะไรก็แล้วแต่ นำมาซึ่งความรู้ความเข้าใจกลิ่นรสของกาแฟในลักษณะต่างๆอันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการพัฒนาเบลนด์กาแฟในแบบที่เราต้องการแต่หากเราไม่เข้าใจอย่างแจ่มชัดเราจะสามารถพัฒนากาแฟของเราให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างไร