วันก่อนได้สอนชงกาแฟให้น้องสองคนที่มาทานกาแฟที่ร้านแล้วนัดหมายเรียนชงกาแฟกับมิสเตอร์ลีเลย ผมถามเขาว่าไปลองทานกาแฟร้านอื่นๆบ้างหรือยังเขาบอกว่านั่งมาหลายร้านแล้ว ผมเลยถามว่ากาแฟมิสเตอร์ลีเป็นยังไง น้องเค้าบอกว่าหลังจากทานกาแฟลงไปกลิ่นรสต่างๆยังคงกรุ่นอยู่ในลำคอมันต่างจากกาแฟทั่วไปที่เคยทาน กาแฟทั่วไปจะออกรสแล้วตอนปลายไม่กรุ่น พอได้ฟังผมก็นึกถึงว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วลูกค้าที่กรุงเทพฯท่านหนึ่งสั่งกาแฟมิสเตอร์ลีทั้งสามตัวเลยคือ กาแฟอราบิก้าเทพเสด็จ,กาแฟTBS Blend,กาแฟ RAINBOW RUNNER ตัวแรกเทพเสด็จลูกค้าให้ความเห็นจากการทดสอบกับพี่น้องว่ามันเป็นกาแฟไทยที่มีมิติกว่าที่แกใช้อยู่ ส่วนตัวTBSมันออกรสชาติดีกว่าช่วงยาว เป็นเพราะเราใส่กาแฟนอกเข้าไปจำนวนหนึ่งโดยคำนึงถึงคุณสมบัติการออกรส แต่ที่น่าสนใจคือ RAINBOW RUNNER กาแฟประจำร้านมิสเตอร์ลีซึ่งเป็น Espresso Blend โดยเราใช้กาแฟต่างประเทศทั้งหมด (specialty grade)
ซึ่งลูกค้าซื้อไว้ชงให้คุณพ่อทานเพราะคุณพ่อทานแล้วชอบมากด้วยเหตุผลที่ว่าหลังจากทานแล้วกลิ่นรสยังหอมอบอวลอยู่ในคออยู่เลย ซึ่งตรงกันกับน้องสองคนที่มาเรียน ผมจึงตั้งข้อสังเกตกับดมว่าหากผู้ที่ใส่ใจในรายละเอียดของกาแฟแล้วจะพบลักษณะดังกล่าวคือกลิ่นรสที่กรุ่นอยู่ในคอหลังจากทานลงไปแล้วนั่นคือ after taste ของกาแฟ
หากจะว่าไปไม่ได้หมายความว่ากาแฟทุกจะต้องมี after tasteแบบนี้ ขึ้นอยู่กับกาแฟที่ใช้ บางตัวมี after taste เป็นผลไม้ดอกไม้เช่น เอธิโอเปียเยอกาเชพ บางตัวออกถั่วๆเช่นบราซิล บางตัวไม่ค่อยมี
แต่สำหรับเจ้า RAINBOW RUNNER เกิดจากกาแฟ specialty grade หลายตัวที่ผสมผสานกันทั้งเทคนิคการคั่ว ระดับการคั่ว รวมถึงคุณสมบัติการออกรสและคุณสมบัติของการให้กลิ่น (aroma) ทำให้กาแฟมีรสชาติที่สมดุล bodyดี ออกรสยาวตลอดช่วงที่สำคัญ after taste ที่กรุ่นอยู่ในลำคอนาน ทำให้หลายท่านที่ทานกาแฟของมิสเตอร์ลีมักจะตั้งคำถามดังกล่าว