ดมไปเที่ยวอิตาลีกับแม่มาในระหว่างท่องเที่ยวไปก็ศึกษาทบทวนเรียนรู้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่ของอิตาลีซึ่งเป็นต้นกำเนิดวัฒนธรรมการดื่มเอสเพรสโซ่ดั้งเดิมและการชงในแบบนี้เองที่เรานำมาปรับปรุงปรับแต่งหรืออะไรก็แล้วแต่จนมาเป็นเมนูในร้านกาแฟบ้านเรา แต่ในวันนี้จะขอพูดถึงสิ่งที่ดมเอาฝากซึ่งคงหนีไม่พ้นกาแฟเอสเพรสโซ่ขนานแท้สไตล์อิตาเลี่ยนไม่ใช่แบบไทยประยุกต์เพื่อทำการ cupping หาคาร์แรคเตอร์ในแบบฉบับของอิตาลีแท้ๆ ซึ่งผมค่อนข้างตื่นเต้นสนใจพอสมควรเพราะระหว่างอยู่ที่อิตาลี่ดม Line มาคุยโดยการส่งรูปกาแฟมาให้ดูตอนเข้าร้านกาแฟในอิตาลี ซึ่งรูปที่ส่งมาเป็นกาแฟเอสเพรสโซ่ล้วนๆ
เอสเพรสโซอิตาลีจะเสริพพร้อมน้ำตาลโรยด้านบนครีม่า ตักครีม่าทานประหนึ่งว่าเป็น topping
ดมบอกว่าคนอิตาลีมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟเป็นเอสเพรสโซ่เกือบหมดมีเมนูอื่นน้อยมาก เรามาว่ากันที่กาแฟคั่วเอสเพรสโซ่ที่ดมเอากลับมามี 4 ตัวดมบอกเข้าหลายร้านแต่บางร้านไม่ได้ขายเมล็ดต่างหาก
มีกาแฟ illy ,PARANA’ LIMONORO สำหรับกาแฟ illy คงเห็นกันทั่วไปในบ้านเราและผมเองก็ชอบเป็นการส่วนตัว LIMONORO ซื้อมาสองเบลนด์ ว่าแล้วก็เริ่มชั่งกาแฟเพื่อ cupping นำมาเรียงกัน 5 ตัวเป็นอิตาลี่ 4 และตัวสำคัญอีกตัวหนึ่งคือ RAINBOW RUNNER ซึ่งเป็นเอสเพรสโซ่เบลนด์กาแฟนอกทั้งหมดของมิสเตอร์ลีเองเพื่อเปรียบเทียบเรื่องกลิ่นรส
แพ็คเกจจิ้งของกาแฟPARANAดูเก๋ดี กล่องคล้ายๆกล่องขนมอบกรอบกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ้านเรา
ที่ที่เราสังเกตได้ชัดเจนตรงตามคำบอกจากดมตอนLineจากที่นั้น เอสเพรสโซ่ของอิตาลีไม่ค่อยมี aroma หรือกลิ่นฟุ้งของกาแฟไม่มีแต่ต้องยกเว้น illy เพราะกาแฟของ illy เป็นอราบิก้าล้วนแถมคั่วอ่อนๆอีกต่างหากกลิ่นค่อนข้างดีที่สำคัญ acidity สูงกว่าเพื่อนๆทั้ง 5 ตัว
กาแฟชิมก่อนจึงเปิดดูว่าคืออะไรขวาสุดในภาพ ILLY,CAPRI,CARUSO,RAINBOW RUNNER,PARANA
ขอเริ่มจาก illyเลย กาแฟหอมผลไม้ดอกไม้นิ่มนวล acidity สูงแต่ทานได้สะอาดสมูทแต่บอดี้ค่อนข้างบาง มาถึงตัวที่ 2 LIMONARO CAPRI กาแฟรสค่อนข้างแน่นช็อคถั่ว acidity ไม่มี กลิ่นก็ไม่ค่อยมีช่วงกลางไม่ค่อยสมูทแต่ไม่มีกลิ่นไหม้ ตัวที่ 3 LIMONARO CARUSO กลิ่นกาฟไม่ค่อยมีหรืออาจพูดได้ทำนองไม่มี aroma พอ cupping เข้าไปกาแฟออกรสเป็นช็อคถั่วอ่อนๆบอดี้แน่นมากๆแถมสมูทมาก จะบอกว่าไม่มี acidity ก็ไม่ใช่จะว่ามีก็ไม่เชิงเป็นแบบแฝงนานๆจะได้ชิมกาแฟที่ออกรสเต็มๆแน่นๆสักทีแถมมีมิติเล็กๆที่ดีด้วย มาถึงตัวที่ 4 aroma กลิ่นดาร์กช็อคถั่วอ่อน กลิ่นฟุ้งๆ ชิมลงไปเป็นช็อคสวีทออกรสช่วงยาว acidity นิดหน่อยเกือบไม่มีแต่ aftertaste กาแฟยังกรุ่นอยู่ในลำคอบอดี้ดีแต่หากเทียบกับ Caruso นับว่ายังห่างพอสมควร ตัวนี้ก็คือ RAINBOW RUNNER
ตัวสุดท้าย cupping ลงไปออกจะคล้ายๆกาแฟแบบไทยค่อนข้างมากเพราะกลิ่นรสที่สัมผัสได้ค่อนข้างใกล้เคียงของไทยที่เคยกินเคยลิ้มรส มีกลิ่นรสของกาแฟโรบัสต้าค่อนข้างชัดเจน จนผมนึกไปว่าเป็นกาแฟโรบัสต้าล้วนๆที่สำคัญคั่วเข้มจนมีกลิ่นไหม้พอสมควรแถมมีกลิ่นเก่าหืนเล็กน้อยพอมาดูที่เมล็ดกาแฟจึงพอเดาออก กาแฟคั่วเข้มน้ำมันค่อนข้างมาก ซึ่งตรงนี้หากการจัดเก็บไม่ดีหรือการใช้ไม่เร็วพอกาแฟจะเก่าหืนเร็วมาก ที่อิตาลีส่วนใหญ่กาแฟจะเบลนด์ด้วยโรบัสต้าประมาณ 30%แต่โรบัสต้าที่นี่ออกรสจะไม่มีกลิ่นฟางๆกระด้างมากนักจนเหมือนกับไม่มี ดมถามมาร้านหนึ่งว่าใช้โรบัสต้าอะไรคำตอบคือโรบัสต้าประเทศคองโก วันนี้พอแค่นี้ก่อนเดี๋ยวจะเอารูป เอสเพรสโซ่กับร้านในอิตาลีมาฝาก