ผมมีโอกาสได้กลับมาที่จันทบุรีอีกครั้งหนึ่งมีสถานที่ที่หนึ่งผมยังจำได้แม่นยำมากกว่าทะเลเสียอีกนั้นคือ “น้ำตกพริ้ว” แม้จะมีโอกาสมาที่จัทบุรีก่อนหน้านั้นแต่ไม่ได้มาเยือนที่น้ำตกพริ้วเหมือนครั้งนี้ซึ่งหากนับย้อนเวลากลับไปน่าจะเกือบ 30ปีมาแล้วตอนนั้นเรียนมหาวิทยาลัย (ไม่ค่อยไปเรียนด้วย) มีความทรงจำเลือนลางเต็มทีแต่ที่จำได้คือเป็นน้ำตกที่สวยมากๆ มีหลายชั้นน้ำใสและเป็นน้ำตกที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมา แต่ที่จำแม่นมากๆมีปลาจำนวนมากว่ายวนไปวนมาในน้ำตกแต่ละชั้นปลาที่ว่ามีชื่อว่า “ปลาพลวงหิน” มาคราวนี้ตามคำเรียกร้องของลูกๆ ทริปนี้เลยมีดาราหน้ากล้องอยู่บ้างปกติเวลาถ่ายก็ขออนุญาตคนนั้นเป็นแบบบ้างคนนี้เป็นแบบบ้าง ไม่มีอะไรถ่ายไปเรื่อยๆ
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในจังหวัดจันทบุรี อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 134.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,062.50 ไร่ ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้มีอากาศจะเย็นสบายตลอดทั้งปี ยอดเขาสลับซับซ้อนสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 20-924 เมตร จุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ที่ ยอดเขามาบหว้ากรอก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 924 เมตร และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย อยู่ห่างจากจังหวัดจันทบุรีประมาณ 14 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดสายทำให้สะดวกสบายในการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ถูกเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 11 ของประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติเขาสระบาป แต่ต่อมา นายผจญ ธนมิตรามณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสระบาป ได้ทำหนังสือขอเปลี่ยนชื่อ อุทยานแห่งชาติเขาสระบาป เป็น อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เนื่องจาก “น้ำตกพลิ้ว” เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ มีน้ำตกตลอดปี อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป และเป็นจุดเด่นของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2525 เห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อเป็น “อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว”
ชื่อ “พลิ้ว” มาจากภาษาชอง แปลว่า “ทราย” หรือ “หาดทราย”
สถานที่น่าสนใจ
- น้ำตกพลิ้ว
น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม มีน้ำตลอดปี ประกอบด้วยสายธาร 2 สาย สายหนึ่งไหลลดหลั่นผ่านซอกหินผา อีกสายหนึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร ทั้งสองสายไหลมารวมกันในแอ่งน้ำใสสะอาด มากสามารถมองเห็นพื้นล่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรายในระดับลึกกว่า 2 เมตร ภายในบริเวณน้ำตกและลำคลอง มีปลาใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่ตื่นตาตรึงใจกับฝูงปลาแก่ผู้ที่ไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะ “ปลาพลวงหิน”
- อลงกรณ์เจดีย์” (จุลศิรจุมพฏเจดีย์)
อลงกรณ์เจดีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย พระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอัครมเหสี ได้โปรดปรานให้สร้างเจดีย์ทำด้วยศิลาแลงขึ้น ที่บริเวณหน้าผาด้านหน้า น้ำตกพลิ้ว เมื่อ พ.ศ. 2419 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาส น้ำตกพลิ้ว ด้วยกัน และพระราชทานนามว่า “อลงกรณ์เจดีย์” (นักประวัติศาสต์รค้นคว้าหลักฐานภายหลังพบว่าร.๕ ทรงพระราชทานนามว่า “จุลศิรจุมพฏเจดีย์” ซึ่งกรมศิลปากรได้ให้เปลี่ยนชื่อแล้ว)พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรด น้ำตกพลิ้ว เป็นอย่างยิ่ง และได้เสด็จประพาสหลายคราว โปรดมาก ถึงกับมีพระราชดำรัสว่า “เราได้เห็นน้ำตกอย่างนี้มาสองสามแห่ง คือที่ปีนัง เกาะช้าง และสีพยา เห็นไม่มีที่ไหนจะงามกว่าที่นี่เลย ถ้าจะให้เรานั่งดูอยู่ยังค่ำก็แทบจะได้ด้วยเย็นสบายจริง”
- พีระมิดพระนางเรือล่ม (สุนันทานุสาวรีย์) สถูปพระนางเรือล่ม อยู่ในบริเวณ น้ำตกพลิ้ว สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2424) เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี
ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
รูป กล้องบ้างมือถือบ้าง
เล่นน้ำกันจนเย็นถึงเวลาเดินทางกลับลูกๆชอบที่นี่มากคงไม่ผิดที่ “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรด น้ำตกพลิ้ว เป็นอย่างยิ่ง และได้เสด็จประพาสหลายคราว โปรดมาก ถึงกับมีพระราชดำรัสว่า “เราได้เห็นน้ำตกอย่างนี้มาสองสามแห่ง คือที่ปีนัง เกาะช้าง และสีพยา เห็นไม่มีที่ไหนจะงามกว่าที่นี่เลย ถ้าจะให้เรานั่งดูอยู่ยังค่ำก็แทบจะได้ด้วยเย็นสบายจริง” ที่มาจันทบุรีคราวนี้ตรงไปที่พักที่แหลมสิงห์วนๆเวียนๆอยู่แถวนั้นเพราะสะดวกใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งแล้วจะพาไปซัก 2-3 บทความพักกาแฟไว้ก่อนนะ